ในหนังสือ ” สำนวนไทย ” ของ ขุนวิจิตรมาตรา ( สง่า กาญจนาคพันธ์ ) เขียนไว้ว่า สิบแปดมงกุฎ นำมาใช้เป็นสำนวนในสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อมีนักเลงการพนันใหญ่ลือชื่อพวกหนึ่ง กล่าวกันว่า เป็นนักเลงชั้นยอด สักตามตัวเป็น วานรสิบแปดมงกุฏ จึงเรียกว่า สิบแปดมงกุฎ ตามเรื่องราวในรามเกียรติ์ จากนั้นถ้าใครเป็นนักเลงการพนันก็เลยเรียกว่า สิบแปดมงกุฎ
ทุกวันนี้ สิบแปดมงกุฎ มิใช่สำนวนที่ใช้เรียกพวกนักเลงพนันเท่านั้น แต่ใช้เรียกพวกมิจฉาชีพทั้งหลาย เป็นสำนวนที่พบเห็นบ่อยมากตามสื่อมวลชนต่างๆ ซึ่งมีความหมายถึงพวกที่ยักยอก ต้มตุ๋น หลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อแล้วยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินผู้อื่นมาเป็นของตน
วานรสิบแปดมงกุฏ
วานรสิบแปดมงกุฏ เป็น วานร (ลิง) ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ วานรเหล่านี้เป็นเทวดาที่จุติลงมาเป็นวานร และ มาเป็นทหารเอกในกองทัพของพระราม ผู้ซึ่งเป็นองค์พระนารายณ์อวตารลงมา และต้องไปอยู่ในป่าเป็นเวลา ๑๔ ปี เพื่อรักษาสัจจวาจาของพระราชบิดา คือ ท้าวทศรถ
เมื่อพระมเหสีของพระราม คือ นางสีดา ถูกทศกัณฐ์ กษัตริย์เมืองลงกา ลักพาตัวไป พระรามต้องนำกองทัพติดตามไปรับนางสีดาคืนมา โดยมีหนุมานผู้นำเอา สุครีพ ซึ่งเป็นน้าชายมาถวายตัวพร้อมไพร่พลเมืองขีดขิน และท้าวมหาชมพูที่ยกกำลังพลเมืองชมพูให้เป็นทหารแห่งองค์พระราม วานรสิบแปดมงกุฏจึงเป็นกำลังพลในทัพขององค์พระราม ที่มาจากสองเมืองคือ เมืองขีดขินของสุครีพ และเมืองชมพูของท้าวมหาชมพู
เมื่อนั้น | ฝูงเทพเทวาน้อยใหญ่ |
ต่างทูลอาสาพระภูวไนย | จะขอไปเป็นพลพระอวตาร |
ล้างเหล่าอสุระพาลา | ที่หยาบช้าเบียนทุกสถาน |
พระราหูฤทธิไกรไชยชาญ | เป็นทหารชื่อนิลปานัน |
พระพินายนั้นเป็นนิลเอก | พระพิเนกนั้นเป็นนิลขัน |
พระเกษเป็นเสนีกุมิตัน | พระอังคารเป็นวิสันตราวี |
พระหิมพานต์จะเป็นโกมุท | พระสมุทนิลราชกระบี่ศรี |
พระเพลิงเป็นนิลนนมนตรี | พระเสารีเป็นนิลพานร |
พระศุกร์เป็นนิลปานัน | พระพฤหัสมาสุนห์เกสร |
พระพุฒเป็นสุรเสนฤทธิรอน | พระจันทร์เป็นสัตพลี |
วิรุณหกวิรุณปักสองตระกูล | เป็นเกยูรมายูรกระบี่ศรี |
เทวันวานรนอกนี้ | บัญชีเจ็ดสิบสมุดตราฯ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น